|
ภาษาไทย |
หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการสร้างเสริมสุขภาพเชิงนวัตกรรม |
|
ภาษาอังกฤษ |
Bachelor of Science Program in Innovative Health Promotion |
|
ภาษาไทย |
ชื่อเต็ม: วิทยาศาสตรบัณฑิต (การเสริมสุขภาพเชิงนวัตกรรม) |
|
ชื่อย่อ: วท.บ. (การเสริมสุขภาพเชิงนวัตกรรม) |
|
|
ภาษาอังกฤษ |
ชื่อเต็ม: Bachelor of Science (Innovative Health Promotion) |
|
ชื่อย่อ: B.Sc. (Innovative Health Promotion) |
จำนวนหน่วยกิตรวมตลอดหลักสูตร 132 หน่วยกิต โดยศึกษารายวิชาต่าง ๆ ครบตามโครงสร้างองค์ประกอบ และข้อกำหนดของหลักสูตรดังนี้
| รายการ | หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2566 |
| 1. วิชาศึกษาทั่วไป | 30 |
| 2. วิชาเฉพาะ | 96 |
| 2.1 วิชาพื้นฐานวิชาชีพ | 20 |
| 2.2 วิชาชีพสาธารณสุข | 30 |
| 2.3 วิชาชีพเฉพาะสาขา | 46 |
| 3. วิชาเลือกเสรี ไม่น้อยกว่า | 6 |
| จำนวนหน่วยกิตรวมตลอดหลักสูตรไม่น้อยกว่า | 132 |
หลักสูตรระดับปริญญาตรี ระยะเวลาศึกษา 4 ปี สอดคล้องกับเกณฑ์หลักสูตรอุดมศึกษา พ.ศ. 2558
หลักสูตรจัดการศึกษาเป็นภาษาไทย
จำนวนรับเข้าศึกษา 40 คน
คุณสมบัติของผู้เข้าศึกษา
คุณสมบัติของผู้เข้าศึกษาต้องเป็นไปตามข้อบังคับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ว่าด้วยการศึกษาระดับปริญญาตรี พ.ศ. 2561 ข้อ 14
การคัดเลือกผู้เข้าศึกษา
การคัดเลือกผู้เข้าศึกษาให้เป็นไปตามระเบียบคัดเลือกเพื่อเข้าศึกษาในสถาบันการศึกษาขั้นอุดมศึกษาของส่วนราชการ
หรือหน่วยงานอื่นดำเนินการตามการมอบหมายของมหาวิทยาลัยหรือตามข้อตกลง
หรือ การคัดเลือกตามวิธีการที่มหาวิทยาลัยกำหนดโดยความเห็นชอบของสภามหาวิทยาลัย และออกเป็นประกาศมหาวิทยาลัย
การสมัครสอบ
วิธีการสมัครสอบ
ผู้สมัครสามารถสมัครผ่านทางออนไลน์ได้ที่
https://www.tuadmissions.in.th
เป็นหลักสูตรแบบไม่เต็มเวลา นักศึกษาต้องใช้เวลาการศึกษาอย่างน้อย 8 ภาคการศึกษาปกติ (4 ปี)
ภาคการศึกษาที่ 1 เดือนสิงหาคม – ธันวาคม
ภาคการศึกษาที่ 2 เดือนมกราคม – พฤษภาคม
ภาคฤดูร้อน เดือนมิถุนายน – กรกฎาคม
1) นักวิชาการสาธารณสุข
2) นักวิชาการส่งเสริมสุขภาพ
3) นักสร้างเสริมสุขภาพ
4) นักวิจัยด้านสุขภาพ
5) นวัตกรด้านการสร้างเสริมสุขภาพ
6) ผู้ประกอบการด้านการสร้างเสริมสุขภาพ
7) ผู้จัดการโครงการด้านสุขภาพ
8) นักวิชาการอิสระ
ปรัชญา
การผลิตบัณฑิตด้านสาธารณสุขศาสตร์ให้เป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถและทักษะที่หลากหลาย
สามารถทำงานร่วมกับชุมชน บุคลากรสาธารณสุขและหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ เอกชนและชุมชนได้
รวมทั้งประเมินและติดตามสถานการณ์สถานะด้านสุขภาพของประชากรและปัจจัยกำหนดสุขภาพ
ขับเคลื่อนการพัฒนาศักยภาพบุคคลและการสร้างชุมชนสุขภาพดี หลักสูตรนี้จึงมุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพและการเสริมพลังอำนาจด้วยทักษะการคิด
การแก้ปัญหาเชิงระบบแบบมีส่วนร่วม ความสามารถในการสื่อสารและการชี้แนะสังคม การระดมทรัพยากรและการทำงานร่วมกับชุมชนและสหวิชาชีพ
นอกจากนี้ยังส่งเสริมให้บัณฑิตมีความคิดสร้างสรรค์และมีความสามารถในการพัฒนานวัตกรรม โดยต้องมีพื้นฐานด้านเทคโนโลยี
โดยเฉพาะความรอบรู้ดิจิทัล (Digital Literacy) นั้นคือมีความหลากหลายของทักษะที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน
ซึ่งทักษะเหล่านั้นอยู่ภายใต้ การรู้สื่อ (Media literacy) การรู้เทคโนโลยี (Technology literacy) การรู้สารสนเทศ (Information literacy)
การรู้เกี่ยวกับสิ่งที่เห็น (Visual literacy) การรู้การสื่อสาร (Communication literacy) และการรู้สังคม (Social literacy)
อีกทั้ง มีความรอบรู้ด้านสุขภาพ รู้เท่าทันความเปลี่ยนแปลงและสามารถรับมือกับความท้าทายใหม่ๆ บนความหลากหลายด้านสังคม วัฒนธรรม
สามารถจัดการความรู้บนหลักฐานเชิงประจักษ์ รวมทั้งสามารถประกอบการด้านสุขภาพ
โดยตั้งมั่นบนหลักวิชาการคุณธรรม จริยธรรมและจรรยาวิชาชีพ เพื่อให้เกิดการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชากรอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
สำหรับแนวทางการจัดการเรียนการสอนนั้น จะสร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้ให้นักศึกษาใหม่และเปิดโลกวิชาการและโลกรอบตัว
รู้เท่าทันกระแสการเปลี่ยนแปลงของสังคมไทยและสังคมโลก รวมถึงจะท้าทายกรอบความเชื่อเดิมและเปิดโลกใหม่ เพื่อทำความเข้าใจสังคม
ให้เห็นความหลากหลายและความซับซ้อนของสังคม สามารถเชื่อมโยงมิติทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรมและเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน
รวมถึงมุ่งมั่นที่จะสร้างพลเมืองที่ดีของโลก โดยจะเน้นให้นักศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับความรับผิดชอบต่อสังคม มีจิตสาธารณะ
ซึ่งเป็นการเรียนการสอนที่เน้นทำกิจกรรมเพื่อสังคมนอกห้องเรียนเพื่อเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของนักศึกษา ให้เรียนรู้การใช้ชีวิตอย่างเท่าเทียมกับการเปลี่ยนแปลงของโลก
ความสัมพันธ์ระหว่างพลวัตของธรรมชาติ มนุษย์ และสิ่งแวดล้อม การใช้พลังงาน เศรษฐกิจ สังคม ในความขัดแย้งและการแปรเปลี่ยน
รวมถึงองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมที่จะนำไปสู่การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตสู่ความยั่งยืน
เพื่อให้บัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาในหลักสูตรมีคุณลักษณะ ดังนี้
1) มีความรู้ความเข้าใจด้านการสร้างเสริมสุขภาพที่ทันต่อสถานการณ์
2) สามารถวิเคราะห์และใช้ข้อมูลเพื่อการวางแผนในการดำเนินงานสร้างเสริมสุขภาพ
3) สามารถคิด ออกแบบและพัฒนานวัตกรรมเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพ
4) มีสมรรถนะในการเป็นผู้ประกอบการทางด้านการสร้างเสริมสุขภาพ
5) มีคุณธรรมจริยธรรมในการประกอบอาชีพ
PLOs1: ผู้เรียนผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจด้านวิทยาศาสตร์ การสาธารณสุขและการสร้างเสริมสุขภาพที่ทันต่อสถานการณ์
PLOs2: ผู้เรียนสามารถวิเคราะห์และใช้ข้อมูลเพื่อการวางแผนในการสร้างเสริมสุขภาพ
PLOs3: ผู้เรียนสามารถคิด ออกแบบและพัฒนานวัตกรรมเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพได้
PLOs4: ผู้เรียนสามารถประยุกต์ใช้ความรู้ด้านดิจิตัลในการวางแผน ออกแบบ พัฒนานวัตกรรมเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพได้
PLOs5: ผู้เรียนมีจริยธรรมในการประกอบวิชาชีพ
PLOs6: มีสมรรถนะในการเป็นผู้ประกอบการด้านสุขภาพที่สามารถประยุกต์ใช้ความรู้ด้านดิจิตัลในการประกอบการ
ผลลัพธ์การเรียนรู้ที่คาดหวังเมื่อสิ้นปีการศึกษา (YLOs)
| ชั้นปี | ความรู้ ทักษะ ทัศนคติ หรือ อื่น ๆ ที่นักศึกษาจะได้รับเมื่อเรียนจบแต่ละชั้นปี |
| ปีที่ 1 | มีความรู้ความเข้าใจด้านวิทยาศาสตร์ การสาธารณสุขและการสร้างเสริมสุขภาพที่ทันต่อสถานการณ์ (ประเมินจากการประเมินผลการศึกษารายภาค) |
| ปีที่ 2 | มีความรู้ความเข้าใจในศาสตร์ด้านการสร้างเสริมสุขภาพในงานสาธารณสุข (ประเมินจากการประเมินผลการศึกษารายภาค) |
| ปีที่ 3 | มีความรู้และทักษะเฉพาะทางด้านนวัตกรรมการพัฒนานวัตกรรมในงานสร้างเสริมสุขภาพ (ประเมินการทำแผนโครงการการสร้างเสริมสุขภาพเชิงนวัตกรรมและการนำเสนอเพื่อคัดเลือกโปรเจค (Pitching) |
| ปีที่ 4 | พัฒนานวัตกรรมในงานสร้างเสริมสุขภาพได้ ประเมินจากการออกแบบและดำเนินการโครงงานพิเศษด้านนวัตกรรมการสร้างเสริมสุขภาพ และการนำผลงานไปใช้ประโยชน์ของผู้เกี่ยวข้องรงมทั้งการฝึกปฏิบัติวิชาชีพการสร้างเสริมสุขภาพเชิงนวัตกรรม |
1) วิชาศึกษาทั่วไป
ให้เป็นไปตามคำอธิบายรายวิชาหลักสูตรวิชาศึกษาทั่วไป ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2566
2) วิชาเฉพาะ
ศูนย์รังสิต
ค่าธรรมเนียมตลอดหลักสูตร 178,400 บาท (22,300 บาท ต่อภาคการศึกษา)
1. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ รณภูมิ สามัคคีคารมย์
2. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พรทิพย์ จอมพุก
3. อาจารย์ ดร. พีระพล รัตนะ
4. รองศาสตราจารย์ ดร. วรรณรัตน์ รัตนวรางค์
5. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ พ.ต.ต. หญิง ดร. คัติยา อีวาโนวิช
6. รองศาสตราจารย์ ดร. ณิภัทรา หริตวร
7. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. กิตรวี จิรรัตน์สถิต
Eng
ไทย