ภาษาไทย	ชื่อเต็ม: วิทยาศาสตรบัณฑิต (อนามัยชุมชน)
	ชื่อย่อ: วท.บ. (อนามัยชุมชน)
ภาษาอังกฤษ	ชื่อเต็ม: Bachelor of Science (Community Health)
	ชื่อย่อ: B.Sc. (Community Health)

      นักศึกษาจะต้องจดทะเบียนศึกษารายวิชา รวมไม่น้อยกว่า 144 หน่วยกิต โดยศึกษารายวิชาต่าง ๆ ครบตามโครงสร้างองค์ประกอบและข้อกําหนดของหลักสูตร ดังนี้

1.	วิชาศึกษาทั่วไป	30	หน่วยกิต
2.	วิชาเฉพาะ	108	หน่วยกิต
	2.1 วิชาพื้นฐานวิชาชีพ	26	หน่วยกิต
	2.2 วิชาชีพสาธารณสุข	25	หน่วยกิต
	2.3 วิชาชีพเฉพาะสาขา	57	หน่วยกิต
3.	วิชาเลือกเสรี	6	หน่วยกิต
	รวม	144	หน่วยกิต

หลักสูตรระดับปริญญาตรี 4 ปี

หลักสูตรจัดการศึกษาเป็นภาษาไทย

จำนวนรับเข้าศึกษา 40 คน

คุณสมบัติของผู้เข้าศึกษา

        คุณสมบัติของผู้เข้าศึกษาต้องเป็นไปตามข้อบังคับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ว่าด้วยการศึกษาระดับปริญญาตรี พ.ศ. 2561 หมวด 2 การรับเข้าศึกษา ข้อ 14 การคัดเลือกผู้เข้าศึกษา

การคัดเลือกผู้เข้าศึกษา
        การคัดเลือกผู้เข้าศึกษาให้เป็นไปตามระเบียบคัดเลือกเพื่อเข้าศึกษาในสถาบันการศึกษาขั้นอุดมศึกษาของส่วนราชการ หรือหน่วยงานอื่นดำเนินการตามการมอบหมายของมหาวิทยาลัยหรือตามข้อตกลง หรือ การคัดเลือกตามวิธีการที่มหาวิทยาลัยกำหนดโดยความเห็นชอบของสภามหาวิทยาลัย และออกเป็นประกาศมหาวิทยาลัย

        เป็นหลักสูตรแบบเต็มเวลา ใช้ระบบการศึกษาแบบทวิภาค โดย 1 ปีการศึกษา แบ่งออกเป็น 2 ภาคการศึกษาปกติ 1 ภาคการศึกษาปกติ มีระยะเวลาศึกษาไม่น้อยกว่า 15 สัปดาห์ และอย่างมากไม่เกิน 16 ภาคการศึกษาปกติ (8 ปี)

        วัน – เวลา ในการจัดการเรียนการสอน
        ภาคการศึกษาที่ 1 เดือนสิงหาคม – ธันวาคม
        ภาคการศึกษาที่ 2 เดือนมกราคม – พฤษภาคม
        ภาคฤดูร้อน (ถ้ามี) เดือนมิถุนายน – กรกฎาคม

1. นักวิชาการสาธารณสุขหรือนักวิชาการอื่นที่เกี่ยวข้อง

2. นักพัฒนาชุมชน/นักพัฒนาองค์กรเอกชน

3. ผู้ช่วยวิจัยหรือนักวิจัยในองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน และงานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

        มุ่งผลิตบัณฑิตให้ที่มีความรู้ความสามารถทางด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพและศิลปะในการทำงานร่วมกับชุมชน บุคคลากรสาธารณสุขและหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ เอกชน และชุมชนในการประเมินและติดตามสถานการณ์สถานะด้านสุขภาพของประชากรและปัจจัยกำหนดสุขภาพ ขับเคลื่อนการพัฒนาและการสร้างชุมชนสุขภาพดี ด้วยทักษะการคิด แก้ปัญหาเชิงระบบ สามารถสื่อสาร ระดมทรัพยากรและทำงานร่วมกันเป็นหมู่คณะสหวิชาการและชุมชน มีความคิดสร้างสรรค์ ใฝ่รู้ เรียนรู้ รู้เท่าทันความเปลี่ยนแปลงและรับมือกับความท้าทายใหม่ ๆ ทั้งสามารถในการจัดการความรู้อย่างมีหลักฐาน (Evidence-based) เชิงวิชาการและคุณธรรม จริยธรรม จรรยาวิชาชีพ ด้วยความตระหนักรู้และเคารพต่อความสำคัญและความอ่อนไหวทางวัฒนธรรม ความหลากหลายทางความคิดและชาติพันธุ์ ด้วยความมุ่งมั่นในการลดความเหลื่อมล้ำ เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ที่ดีของประชากรอย่างถ้วนหน้า

        เพื่อให้บัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาในหลักสูตรมีคุณลักษณะ ดังนี้
        1) เป็นผู้มีความรู้ที่ทันสมัย มีความรับผิดชอบ มีมนุษย์สัมพันธ์ มีคุณธรรมและจริยธรรมในวิชาชีพสาธารณสุข สามารถทำงานเป็นทีมและเคารพศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์
        2) คิดอย่างเป็นระบบมีเหตุผลวิเคราะห์และสังเคราะห์สถานการณ์ด้านสุขภาพของชุมชนได้อย่างเป็นองค์รวม
        3) วางแผนแก้ปัญหาด้านสาธารณสุขแบบบูรณาการและประยุกต์ใช้ในกระบวนการแก้ไขปัญหาสุขภาพชุมชนได้อย่างสร้างสรรค์ด้วยหลักฐานเชิงประจักษ์ และมีประสิทธิภาพร่วมกับชุมชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
        4) จัดบริการด้านสาธารณสุขที่ตอบสนองต่อความจำเป็นด้านสุขภาพของประชากรภายใต้ พ.ร.บ.วิชาชีพสาธารณสุขชุมชน
        5) มีทักษะด้านดิจิทัลและใช้เทคโนโลยีได้อย่างเหมาะสม
        6) มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาสุขภาพชุมชนอย่างมีส่วนร่วม และพัฒนานวัตกรรมสุขภาพที่สอดคล้องกับบริบทของชุมชน
        7) เป็นผู้มีความรู้ด้านการเป็นผู้ประกอบการและธุรกิจด้านสุขภาพ

ด้านความรู้ (Knowledge)

PLO 1 ประยุกต์ใช้ความรู้ด้านสาธารณสุขและอนามัยชุมชนในการดูแลสุขภาพ

ด้านทักษะ (Skills)

PLO 2 ปฏิบัติงานด้านสาธารณสุขชุมชนภายใต้ พรบ.วิชาชีพสาธารณสุขชุมชน

PLO 3 สร้างสรรค์งานวิจัย/นวัตกรรมสุขภาพชุมชน

ด้านจริยธรรม (Ethics)

PLO 4 แสดงให้เห็นถึงการมีคุณธรรมจริยธรรมและจรรยาบรรณทางวิชาชีพ

ด้านลักษณะบุคคล (Character)

PLO 5 แสดงถึงภาวะผู้นำให้ความร่วมมือในการทำงานเป็นทีม

PLO 6 ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศได้อย่างเหมาะสม

https://www.reg.tu.ac.th/th/post/read/587

กองกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ http://satu.colorpack.net/index.php/en/scholarships-news

ศูนย์ลำปาง 1. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศุภางค์ วัฒนเสย 2. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กษมา ภูสีสด 3. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สยัมภู ใสทา 4. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุภา วิตตาภรณ์ 5. อาจารย์ ดร.พัชรินทร์ คำนวล